ไข่ผัดไช้โป้ว (จีนแต้จิ๋วเรียกว่าไช้โปวหนึง)อย่างง่าย ๆ

 เมนูนี้ทานกับข้าวต้มร้อน ๆ อร่อยสุด ๆ

 ส่วนประกอบ  1. ไช้โป้วชนิดหวานสับละเอียด

                         2. ไข่ไก่ 2-3 ใบ

วิธีทำ 1. นำไช้โป้ว(แบบที่เป็นชิ้น ๆ ยังไม่สับละเอียด)มาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ ครั้ง สัก 4-5 ครั้ง(จะแช่น้ำไว้สัก 3 ชั่วโมงก่อนก็ได้เพื่อลดความเค็ม แล้วเอามาล้างน้ำอีก 3 ครั้ง)  สะเด็ดให้แห้ง นำมาสับหยาบ หรือใส่เครื่องปั่น พักไว้

       

 2. ตอกไข่ไก่ตีไข่ให้แตกพักไว้

       








3. ตั้งน้ำมันในกระทะ พอร้อน ใส่ไช้โป้วลงไปผัดจนสุกพอประมาณ 

       









 4. ใส่ไข่ไก่ในข้อ 2 ลงไปในกระทะ เกลี่ยให้ครอบคลุมไช้โป้ว พอไข่เริ่มเหลือง ก็พลิกไข่กลับด้าน พอสุกดีแล้วก็ตักใส่จาน

เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่ไช้โป้วต้องล้างให้สะอาดมาก ๆ ถ้าต้องการลดความเค็มให้แช่น้ำทิ้งไว้สัก 3 ชั่วโมงก่อน แล้วล้างต่ออีกหลาย ๆครั้ง 

ผัดกะเพราหมูสับวุ้นเส้น

1. วุ้นเส้น 1 ซองเล็ก
2. ใบกะเพรา
3. กระเทียมสับหยาบ
4. พริกขี้หนูหรือพริกแดงจินดาสับหยาบ
5. น้ำปลา
6. น้ำตาล
7. หมูสับ

วิธีทำ เหมือนทำกะเพราหมูสับ แต่ใส่วุ้นเส้นร่วมด้วย

1. ใส่น้ำมันในกระทะ พอน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมและพริกลงทอดจนหอม ใส่หมูสับผัดพอสุก ก็ใส่วุ้นเส้น อาจเติมน้ำเล็กน้อย
2. เติมรสชาติตามชอบ ใส่น้ำปลา ใส่น้ำตาลเล็กน้อย
3. ผัดจนวุ้นเส้นสุก ใส่ใบกะเพราลงไป ทอดสักพัก ตักขึ้นเสิร์ฟ

เส้นใหญ่ผัดขี้เมาอย่างง่ายไม่เผ็ด

เมนูสูตรนี้เหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่ทานเผ็ดไม่ได้ 

ส่วนประกอบ

1. เส้นใหญ่ ถ้าติดกันให้นำมาคลี่ออกพักไว้

2. เด็ดใบกะเพรา แช่น้ำเกลือ แล้วล้างให้สะอาด

3. กระเทียมสับ

4. ไข่ไก่ 1 ฟอง ต่อ 1 จาน

5. หมูหั่นชิ้นพอคำ

6. เครื่องปรุง:- น้ำมันหอยเล็กน้อย (ใส่เยอะทำให้เค็ม) ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้เพราะเพิ่มสีเท่านั้น), น้ำตาล, น้ำปลาดี,พริกไทยป่น

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะให้ร้อน ไม่ต้องใส่น้ำมัน ใส่เส้นใหญ่ลงไปผัดในกระทะ เพื่อไล่กลิ่นของน้ำมันที่ติดมากับเส้นใหญ่ ตักขึ้นพักไว้

2. ใส่น้ำมันเล็กน้อยในกระทะ ใส่หมูลงไปทอด ตามด้วยกระเทียมพอประมาณ พอหมูสุก ตอกไข่ไก่ลงไป แล้วเทเส้นใหญ่ที่เตรียมไว้ลงไป 

3. ใส่น้ำมันหอย 1 ช้อนชา ซีอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำสูตรสอง 1 ช้อนชา น้ำตาล 1-2 ช้อนชา น้ำปลา 1-2 ช้อนชา โรยพริกไทยป่น ผัดจนเข้ากันดี ชิมรสตามชอบอีกที

4. ใส่ใบกะเพราลงไปผัดจนได้ที่ ก็ตักใส่จาน

หมูทอดกระเทียมพริกไทยอย่างง่าย และอร่อย

1. หมู 300 กรัม
2. กระเทียม 10 กลีบเล็กหรือ 3-4 กลีบใหญ่
3. รากผักชี 3-4 ก้าน
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
5. ซอสฝาเขียว 2-3 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ๊วขาว 4-6 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทยป่น 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมรากผักชีด้วยกัน
2. หมูหั่นชิ้นพอคำ หมักด้วยซอสฝาเขียว ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่นและกระเทียมรากผักชีที่เตรียมไว้ แช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืนได้
3. ใส่น้ำมันเล็กน้อยในกระทะ พอร้อนก็ใส่หมูที่หมักไว้ลงไปทอด ใส่น้ำปลาดีที่เตรียมไว้ลงไป ใส่พริกไทยป่นเพิ่มอีกหน่อย ถ้าแห้งไป เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ทอดต่อสักครู่ ตักขึ้นเสิร์ฟได้

สูตรทำปอเปี๊ยะทอด, และปอเปี๊ยะทอดไส้ผัก

วันนี้อยากทำเปาะเปี๊ยะทอด ไปซื้อแผ่นเปาะเปี๊ยะสดจากตลาดมา 2 ขีด แล้วมาค้นในเน๊ต เจออาจารย์สอนทำเปาะเปี๊ยะในยูทูบ เลยลองทำตามดู อร่อยมาก ๆ
ตอนนี้ก็ได้รู้ว่า ไส้เปาะเปี๊ยะต้องใส่น้ำตาลเพื่อให้หวานเล็กน้อย และวิธีห่อเปาะเปี๊ยะให้ใช้ไข่แดงติดแผ่นแป้ง เวลาห่อไส้เปาะเปี๊ยะต้องให้ไส้แน่น การทำไส้เปาะเปี๊ยะต้องทำให้แห้งอย่าให้เปียกก่อนห่อแป้ง
แต่มีอีกสูตร เป็นปอเปี๊ยะทอดไส้ผัก ไม่ใส่เนื้อสัตว์
1. กะหล่ำปลี ครึ่งลูก หั่นฝอยละเอียด
2. วุ้นเส้น 1 ซองเล็ก แช่น้ำ หั่นสั้น
3. เห็ดหอมหัวใหญ่ 2-3 หัว แช่น้ำ หั่นซอย
4. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
7. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
8. น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. ตั้งเตาใส่น้ำมันเล็่กน้อย ใส่ส่วนประกอบและเครื่องปรุงทั้งหมดลงไปทอดจนสุกและแห้ง ตักขึ้นมาพักไว้
2. ตักไส้ห่อด้วยแผ่นปอเปี๊ยะ ปิดแผ่นด้วยไข่แดง
3. ตั้งเตาเทน้ำมันปาล์มเต็มกะทะ ใส่ห่อปอเปี๊ยะลงไปทอดจนหมด ตักขึ้น

ข้าวอบเผือก

ส่วนประกอบ 

1.เผือก (พันธ์บ้านหมอ) ลูกจะใหญ่และแข็ง
2. ข้าวสารใช้ข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องไห้(กลางเก่ากลางใหม่)
3. เห็ดหอมล้างแล้วแช่จนนิ่ม นำมาหั่นซอย เก็บน้ำที่แช่ไว้ใช้ได้
4. กระเทียมจีน ทุบแล้วหั่น 2-3 ทีพอ ไม่สับละเอียด
5.หมูสามชั้น ตัดหนังทิ้งไปเพราะแข็ง หั่นเป็นลูกเต๋า
6.ใบโหระพา
7. ต้นหอมซอย

วิธีทำ
ขั้นแรก เตรียมเผือก

1. ปอกเปลือกเผือก ให้ทำขณะที่มือแห้งและเผือกแห้ง ป้องกันอาการคันมือคันแขนได้ แล้วเอามาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดใหญ่หน่อย เพราะเวลาหุงกับข้าวสาร มันจะนิ่มหรือเละได้
2. ตั้งเตาใส่น้ำมันมากหน่อย เอาเผือกลงทอดจนเหลืองและแข็ง ตักขึ้นพักไว้

ขั้นที่ 2 เตรียมเครื่องต่าง ๆ

1. ตั้งเตาใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียม เห็ดหอม หมูสามชั้น (จะเพิ่มกุ้งสด และกุนเชียงด้วยก็ได้) เติมรสชาติแล้วแต่ชอบ, ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว ใส่น้ำแช่เห็ดหอม ผัดต่อเล็กน้อยไม่ต้องสุกมาก เพราะจะเอาไปหุงกับข้าวสาร ตักขึ้นมาพักไว้








ขั้นที่ 3 เตรียมข้าว

1. ข้าวสารล้างน้ำแล้วสะเด็ดน้ำ นำเผือกในขั้นแรก และส่วนผสมที่ผัดไว้ในขั้น 2 เทราดลงไปในหม้อข้าว จากนั้นเติมน้ำให้ท่วมเกือบถึงเครื่องที่ใส่ลงไป กะปริมาณน้ำเท่ากับตอนหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
(อย่าเพิ่งใส่น้ำมาก ถ้ากะไม่ได้  ให้ใส่น้ำน้อยก่อน ถ้าข้าวแข็งค่อยเติมน้ำทีหลังได้)

ขั้นที่ 4 เตรียมผัก

1.ตั้งน้ำมันเล็กน้อยในกระทะ เอาใบโหระพาและต้นหอมซอยลงไปทอดสักครู่ ตักขึ้น เอาไว้ใส่โรยหน้าเมื่อข้าวในขั้นที่ 3 สุกแล้ว (ถ้าชอบผักก็ใส่โหระพาเยอะหน่อย)






ขั้นที่ 5 
หลังจากใส่ผักแล้ว ใช้ทัพพีคนข้าวกับเครื่องทั้งหลายคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาอุ่นต่ออีก 15 นาที (ถ้าเกิดข้าวแข็งเพราะเติมน้ำน้อยตอนแรกที่หุงก็ค่อย ๆ เติมน้ำลงไป แล้วอุ่นข้าวต่อจนสุก)

มะระกระดูกหมู

วันนี้มาค้นในเน๊ตเจอสูตรทำมะระกระดูกหมู ลองทำตามเขาดู อร่อยมาก ขออนุญาตคัดลอกบางส่วนมา
จากเว๊ปhttps://www.gotoknow.org/posts/540358

ส่วนประกอบ

1.มะระจีนขนาดย่อม 1 ลูก
2.ซี่โครงหมู(เลือกกระดูกอ่อนปนมาด้วย) สัก 3  ขีด หรือ 1 เส้น
3.กระเทียมจีน 1 หัว (กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ)
4.รากผักชี 2 - 3 ราก
5.พริกไทยดำ 10 เม็ด
6.เกลือ 1 ช้อนชา ครึ่ง (สำหรับปรุงรส) และครึ่งช้อนโต๊ะสำหรับแช่มะระ
7.เห็ดหอมแห้งดอกเล็ก  20 บาท(ประมาณ ครึ่งขีด!)
8.ซี๊อิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง
9.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา(ถ้าใช้น้ำตาลกรวดทุบๆ 3 ช้อนชา)หรือใส่เล็กน้อยก็พอ

วิธีทำ 1.แช่เห็ดหอมแห้งไว้ล่วงหน้าสัก 1 - 2 ชั่วโมงก่อนอื่นทั้งหมด

2.หั่นมะระเป็นท่อนๆ แล้วใช้ปลายช้อน(ช้อนโต๊ะ) ควักไส้ทิ้งไป จากนั้นจึงจัดการผ่าซีก ให้ได้ชิ้นพอดีคำ  เอาแช่น้ำ(ที่ละลายเกลือ อัตราส่วน เกลือ 1 ช้อนโต๊ะต่ดอน้ำ 1 ลิตร)

3.ตั้งหม้อน้ำบนเตาพร้อมกับใส่กระเทียมบุบ รากผักชี(พริกไทยเม็ด ค่อยใส่ทีหลัง)
4.รอจนน้ำเดือด แล้วค่อยๆหย่อนกระดูกหมูลงหม้อไปทีละชิ้นๆ จนหมด(กระดูกที่ต้มไว้ทุกขั้นตอนเราจะไม่ปิดฝาหม้อเลย มิฉะนั้นแล้วน้ำซุปจะขุ่นไม่น่ารับประทาน)
5.ลดไฟลงให้เหลือขนาดกลาง อย่าเร่งไฟแรงมากเดี๋ยวน้ำซุปจะขุ่น

6.พอน้ำซุปค่อยเดือด หมั่นช้อนฟองออกเรื่อยๆ จนไม่มีฟองเหลืออยู่ แล้วค่อยใส่พริกไทยเม็ดลงไป
(กระดูกซี่โครงนี้ ไม่ค่อยมีฟองหรือสิ่งสกปรกมากนัก เว้นแต่ว่าเราจะซื้อซี่โครงเพื่อทำน้ำซุปมาต่างหาก)
5.ระหว่างรอให้น้ำซุปใส ก็หันมาล้างมะระ ซาวๆเบาๆไม่ถึงกับขยำ ล้างน้ำทิ้งอีก 2 -3 ครั้ง
เพื่อล้างความเค็ม ความขม จากนั้น ตักขึ้นพักไว้
6.จัดการเห็ดหอม ถ้าชอบกินก้านเห็ดก็ไม่ต้องหั่นทิ้ง แต่ขอบอกว่าโคนที่หั่นทิ้งไป อย่าทิ้ง!เอาเก็บไว้ตากแห้ง แล้วนำมาใช้เป็นเมนูเจได้! )

7.ใส่เห็ดหอมลงไปในหม้อ น้ำแช่เห็ดหอมก็ค่อยๆเทใส่ลงไปด้วย! ค่อยๆริน เอาเฉพาะด้านบนที่เป็นน้ำใสๆ เศษตะกอนอย่าให้หล่นล่วงไป (แต่สูตรที่ข้าพเจ้าทำเองไม่ใส่เห็ดหอมก็อร่อยแล้ว)
8.รอสักประเดี๋ยว(2-3นาที) ก็ปรุงรส ค่อยๆเติมเกลือลงไป 1 ช่อนชาก่อน ตามด้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายสักครึ่งช้อนชาก่อน
9.ชิมรสดูว่าถ้าอ่อนเค็ม อ่อนหวาน ให้เติมเกลือกับซีอิ๊วขาวอีกอย่างละนิด เหยาะน้ำตาลทรายอีกนิด!

10.สุดท้ายรอจนน้ำซุปเดือดพล่านๆรสชาติถูกปากแล้ว หย่อนมะระที่หั่นไว้แล้วลงไป
11.ปิดฝาให้สนิท พร้อมกับลดไฟลงให้เหลือแค่เบาสุด ตุ๋นทิ้งไว้ 5-10 นาที! ก่อนหน้านี้ไม่ให้ปิดฝา (ใส่มะระแล้วถึงค่อยปิดฝา ต้มไปเรื่อย ๆ จนสุก ห้ามเปิดฝาดู)

เคล็ดลับคือห้ามเปิดฝาหม้อเด็ดขาดจนกว่ามะระจะสุก ส่วนตอนต้มกระดูกหมูช่วงแรก ให้เปิดฝาทิ้งไว้ห้ามปิด

เท่านี้ก็จะได้มะระต้มกระดูกหมูที่กระดูกหมูเนื้อนุ่ม และมะระไม่ขมมาก รสชาติกลมกล่อม